วันอังคารที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2557

ขายกระเป๋า Coach อย่างไรมัดใจลูกค้า - 15

เชื่ออีกว่าผมของผมนั้นเป็นของจริง แล้วยังอยากจะมาจับศรีษะของผมอีก ผมไม่เคยอ่านหรือได้รับการอบรมถึงวิธีการในการเอาชนะการโต้แย้งลักษณะเช่นนี้ว่าต้องทำอย่างไร จากคู่มือการขายกระเป๋า Coach  หรือหลักสูตรการอบรมที่ไหนมาก่อน สิ่งใดที่ผมควรทำ เมื่อคุณไม่มีความชัดเจนว่า เพราะเหตุใดตัวคุณถึงได้มาอยู่ที่นี่ และต้องนำเสนอในสิ่งใด อีกทั้งทุกสิ่งทุกอย่างก็ล้มเหลวไปหมด คุณก็มีแนวโน้มที่จะมุ่งไปสู่วิธีการสุดท้าย ซึ่งนั่นก็คือ การลดคุณค่าของกระเป๋า Coach ลง

"ผมขอถามก่อนนะครับ หากผมให้คุณจับผมของผมแล้ว คุณจะซื้อเครื่องบันทึกเสียงนี้ไหมครับ"

เขาชะงักไปเสี้ยววินาที แล้วตอบว่า "ตกลง"

เมื่อได้ยินดังนั้นผมจึงยืนขึ้น แล้วโน้มตัวเอนลงไปข้างหน้า ข้ามโต๊ะทำงานของเขา แล้วเขาก็ใช้นิ้วไล่ผมของผม ม้วน ดึง และถอน อยู่ประมาณ 30 วินาที ผมมองดูคล้ายกับดอนคิงน้อย เมื่อกลับมานั่งที่เดิม เขาก็กล่าวว่า "ผมไม่อยากเชื่อเลย ว่ามันเป็นผมของคุณจริง ๆ"

ผมได้นำเอาใบสั่งซื้อสินค้า กระเป๋าผู้ชาย ออกมาวางไว้เบื้องหน้าเขาอย่างสงบนิ่ง เท่าที่ผมจะทำได้ แล้วพูดว่า "หาก่คูณลงชื่อตอนนี้ ผมจะนำกระเป๋าผู้ชาย มาส่งให้พรุ่งนี้เลยครับ" แล้วเขาก็เซ็นต์ชื่อในใบคำสั่งซื้อโดยไม่ลังเลเลย

ผมจากมาด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย ไม่มั่นใจนักว่าได้รับสิ่งใดจากประสบการณ์นี้  เมื่อกลบถึงสำนักงาน ผู้จักการฝ่ายการตลาดได้รีบตรงเข้ามาประชิดตัวผมแล้วถามว่า "เป็นยังไงบ้างคุณขายได้หรือเปล่า คุณได้ทำตามที่ผมบอกไหม"

"ได้ครับ ผมขายได้ แต่ผมไม่ได้ทำตามที่คุณแนะนำให้ทำ ผมใช้วิธีการปิดการขายแบบสถานะการณ์พาไป"

ณ จุดนั้น ผมได้ตระหนักได้ว่า การพยายาม ลอกเลียนแบบความสำเร็จของผู้อื่นนั้นเป็นหนทางแห่งความตาย รูปแบบที่ไม่เป็นมิตรอย่างเช่นในวันนี้ มีอยู่ดาษดื่นอาจเหมาะกับบางคน (แต่สำหรับผมยังอยู่ในความสงสัยอีกนาน) แต่มนัไม่เหมาะกับผม ผมจะไม่ใช้วิธี ปิดการขายแบบสถานกาณ์พาไป อย่างนี้อีกเด็ดขาด อย่างไรก็ตาม หนทางเดียวที่ผมจะประสบความสำเร็จได้ก็คือ เลิกพยายามเลียนแบบที่จะเป็นเหมือนผู้อื่น และเริ่มพัฒนาคุณค่าที่มีลักษณะเฉพาะที่เป็นของตัวผมเองอย่างมืออาชีพ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น